ทำความเข้าใจการตรวจบริภัณฑ์ไฟฟ้า คือการตรวจสอบอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟ เพื่อป้องกันความเสียหาย เพิ่มความปลอดภัย และลดความเสี่ยงในอาคารหรือโรงงาน
ในยุคที่ความปลอดภัยในสถานประกอบการมีความสำคัญมากกว่าที่เคย การดูแลระบบไฟฟ้าให้พร้อมใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะในอาคารสำนักงาน โรงงานอุตสาหกรรม และสถานที่ที่มีการใช้ไฟฟ้าปริมาณมาก หนึ่งในแนวทางที่ช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพคือการตรวจบริภัณฑ์ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ บทความนี้จะพาคุณทำความเข้าใจว่า “ตรวจบริภัณฑ์ไฟฟ้า” คืออะไร สำคัญแค่ไหน และทำไมทุกอาคารและโรงงานจึงควรทำเป็นประจำ

ตรวจบริภัณฑ์ไฟฟ้าคืออะไร?
ความหมายของการตรวจบริภัณฑ์ไฟฟ้า
คำว่า “บริภัณฑ์ไฟฟ้า” หมายถึง อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการจ่าย การควบคุม และการใช้งานพลังงานไฟฟ้า เช่น ตู้ MDB, เบรกเกอร์, สายไฟ, หม้อแปลง, ตู้ควบคุมไฟ, ระบบสายดิน และอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าอื่น ๆ ดังนั้น การตรวจบริภัณฑ์ไฟฟ้า คือการตรวจสอบสภาพการทำงาน ความสมบูรณ์ และความปลอดภัยของอุปกรณ์เหล่านี้โดยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญและมีใบอนุญาตวิศวกรรมไฟฟ้า
รูปแบบการตรวจที่ใช้ในปัจจุบัน
การตรวจบริภัณฑ์ไฟฟ้าประกอบด้วยหลายวิธี เช่น
- การตรวจสอบด้วยสายตา (Visual Inspection)
- การวัดค่าทางไฟฟ้า เช่น ความต้านทานฉนวน ค่ากระแสและแรงดัน
- การถ่ายภาพความร้อนด้วยกล้องอินฟราเรด (Infrared Thermography)
- การทดสอบระบบป้องกัน เช่น เบรกเกอร์และระบบตัดไฟอัตโนมัติ
ทำไมอาคารและโรงงานต้องตรวจบริภัณฑ์ไฟฟ้าเป็นประจำ?
ป้องกันอุบัติเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจรและไฟไหม้
สาเหตุสำคัญของอัคคีภัยในสถานประกอบการมักมาจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งสามารถป้องกันได้หากมีการตรวจบริภัณฑ์ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ อุปกรณ์ที่เริ่มเสื่อมหรือเกิดจุดร้อนสามารถตรวจพบและซ่อมแซมก่อนเกิดเหตุร้ายแรง
รักษาความเสถียรของระบบไฟฟ้า
หากระบบไฟฟ้ามีความไม่เสถียร เช่น โหลดเกิน ฟ้าผ่ากระทบ หรืออุปกรณ์บางตัวเริ่มทำงานผิดปกติ อาจทำให้เกิดไฟดับ ระบบเครื่องจักรหยุดชะงัก หรือความเสียหายต่ออุปกรณ์ราคาแพง การตรวจบริภัณฑ์ไฟฟ้าช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าวได้
สอดคล้องกับกฎหมายและข้อกำหนดความปลอดภัย
ตามข้อกำหนดของกฎหมายแรงงาน และกฎกระทรวงความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า พ.ศ. 2558 กำหนดให้นายจ้างต้องดูแลระบบไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพปลอดภัย และให้ดำเนินการตรวจสอบโดยวิศวกรไฟฟ้าเป็นประจำ รวมถึงใช้ในการยื่นขอรับรองความปลอดภัยจากหน่วยงานราชการ
ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์
การตรวจบริภัณฑ์ไฟฟ้า ช่วยให้สามารถบำรุงรักษาอุปกรณ์ได้ตรงจุด และเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสื่อมสภาพก่อนเกิดความเสียหาย จึงช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบโดยรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ควรตรวจบริภัณฑ์ไฟฟ้าบ่อยแค่ไหน?
ช่วงเวลาที่แนะนำในการตรวจบริภัณฑ์ไฟฟ้าแตกต่างกันไปตามลักษณะของอาคารและประเภทการใช้งาน
- อาคารสำนักงานทั่วไป: ทุก 12 เดือน
- โรงงานอุตสาหกรรมหรืออาคารที่ใช้ไฟฟ้าปริมาณมาก: ทุก 6 เดือน
- อุปกรณ์สำคัญ เช่น หม้อแปลงไฟฟ้า หรือระบบจ่ายไฟสำรอง: อาจต้องตรวจเป็นรายไตรมาส
แนวทางการตรวจบริภัณฑ์ไฟฟ้าแบบมืออาชีพ
- วางแผนจุดตรวจตามระบบไฟฟ้าหลัก
- สำรวจด้วยสายตาเพื่อหาความเสียหายภายนอก
- ใช้เครื่องมือวัดทางไฟฟ้าในการตรวจสอบค่าแรงดันและความต้านทาน
- ใช้กล้องถ่ายภาพความร้อนเพื่อตรวจจับจุดเสี่ยง
- สรุปผลพร้อมรายงาน และแนบคำแนะนำในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์
บริษัท เอ็น ซี ดับบลิว อิเลคทริค จำกัด (N C W) ผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจบริภัณฑ์ไฟฟ้า
สำหรับองค์กรที่ต้องการบริการตรวจบริภัณฑ์ไฟฟ้าอย่างมืออาชีพ บริษัท เอ็น ซี ดับบลิว อิเลคทริค จำกัด (N C W) คือหนึ่งในผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ ด้วยประสบการณ์ในการตรวจสอบและดูแลระบบไฟฟ้าทั้งในโรงงานขนาดใหญ่ อาคารพาณิชย์ และหน่วยงานราชการ N C W ให้บริการโดยทีมวิศวกรไฟฟ้าที่มีใบอนุญาต และผ่านการอบรมตามมาตรฐานสากล
จุดเด่นของ N C W คือการใช้เทคโนโลยีทันสมัย เช่น กล้องถ่ายภาพความร้อน (Thermal Camera) เครื่องวัดค่าทางไฟฟ้าแบบดิจิทัล และซอฟต์แวร์วิเคราะห์ที่สามารถระบุปัญหาได้แม่นยำ พร้อมบริการจัดทำรายงานผลการตรวจสอบอย่างละเอียด ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ รวมถึงคำแนะนำการแก้ไขอย่างเป็นระบบ
ไม่เพียงแค่บริการตรวจสอบ N C W ยังพร้อมให้คำปรึกษาด้านการวางแผนระบบ PM ระบบไฟฟ้า วางระบบสายดิน ระบบแสงสว่าง และติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกประเภท โดยให้บริการในลักษณะงานครั้งเดียวหรือบริการรายปี เพื่อให้ลูกค้าได้รับความต่อเนื่องในการดูแลระบบไฟฟ้าอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
หากคุณไม่แน่ใจว่าระบบไฟฟ้าในอาคารของคุณพร้อมใช้งานอย่างปลอดภัยหรือไม่ บริษัท เอ็น ซี ดับบลิว อิเลคทริค จำกัด คือพันธมิตรที่คุณไว้วางใจได้อย่างแท้จริง